วันนี้ ช่วงเย็นๆ ออกไปวิ่งออกกำลังกาย วิ่งจากบ้าน เรื่อยๆ จนไปถึงศาล ก็วิ่ง อย่างสบายๆ แซงคนอื่นไปเรื่อยๆ ไม่มีใครวิ่งแซงเรา วิ่งไปได้สัก3-4รอบ มีเสียงฝีเท้าตามหลัง ไม่รู้อะไร มันทำให้เราวิ่งให้เท่าเสียงฝีเท้าด้านหลังเพื่อไม่ให้เค้าแซงเราไปอีก5รอบ จึงนึกขึ้นว่า เฮ้ย "เราจะวิ่งเร็วทำไม? เป้าหมายวันนี้เราไม่ได้ จะมาวิ่งไม่ให้ใครแซงเรานะ จะมาวิ่งอยากได้ความอึด กะจะวิ่งให้ได้สัก20-25รอบ ทำไมเราต้องเพิ่มความเร็วไม่ให้เค้าแซงเราด้วย?" เมื่อรู้สึกตัวแล้ว จึงลดความเร็วลง มาอยู่ระดับที่วิ่งสบายๆอีกที แล้วเสียงฝีเท้าผู้วิ่งตามหลัง ก็แซงหน้าเราไป แต่ก็ไม่ถึงรอบ พี่แกก็เดิน แล้วเราก็วิ่งแซงพี่คนนั้นอีกครั้ง แต่มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีเลย การที่เราวิ่งโดยใช้ความเร็วไม่ให้พี่เค้าแซงนั้น ทำให้แรงกายของเราที่ควรจะมีวิ่งให้ถึงเป้าหมาย หมดไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ทำให้เราวิ่งได้วันนี้เพียง15รอบ ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย จากการที่เราหลุดออกจากความคิดสู่เป้าหมายของเราชั่วขณะหนึ่ง เราว่าชีวิตของเรา และใครอีกหลายคน พยายามวิ่งให้เร็วขึ้น วิ่งอยู่ในสนามแห่งการแข่งขันโดยไม่รู้ตัว โดยไม่อยากให้ใครแซงได้ และกระหายที่จะแซงคนอื่น ทั้งที่เป้าหมายของเราต่างออกไป ชีวิตที่อยู่ในสังคม บางทีมันหลอมให้เราเกิดบ้าการแข่งขันโดยไม่รู้ตัว โดยลืมความเป็นตัวของตัวเอง มันน่าเศร้าใจจังที่ตลอดมา เราเอาใจไปผูกกับการยกย่องกับความสำเร็จที่คนหมู่มากยกย่อง มากกว่าภูมิใจในความสำเร็จของตัวเราเอง ต่อจากนี้ไป เราจะวิ่งไปบนเส้นทางของชีวิต ด้วยเป้าหมายที่เมื่อไปถึงแล้ว เราจะภูมิใจในความสำเร็จของตัวเราเอง เราจะไม่สนใจอีกแล้ว ไม่ว่าใครเค้าจะมองเราว่าเป็นอย่างไรก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น